วิธีทำให้หน้าใสและผิวกายกระจ่างใส

ผิวหน้าและผิวกายที่กระจ่างใสไร้ริ้วรอยนั้นสามาถช่วยให้คุณโด่ดเด่นและมั่นในทุกสถานการณ์ เคล็ดลับวิธีทำให้หน้าใสอย่างเห็นผลสามารถทำได้ง่ายนิดเดียว

ผิวสวยสำหรับคนเอเชียนั้นคือผิวที่มีความกระจ่างใส ดูเนียนเรียบน่าสัมผัส แต่ด้วยสภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญกับแสงแดดอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผิวไม่อาจหลีกเลี่ยงรังสีอัลตราไวโอเลตซึ่งเป็นตัวการทำให้ผิวหมองคล้ำและแห้งกร้านได้

ทำยังไงให้หน้าและผิวกายยังคงกระจ่างใส? แม้คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนพันธุกรรมของสีผิวได้ แต่การบำรุงผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวเป็นประจำทุกวัน รวมถึงการขจัดสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพก็สามารถช่วยปรับสภาพผิวให้ดูสว่างและกระจ่างใส พร้อมทั้งช่วยฟื้นฟูผิวจากความหมองคล้ำที่เกิดจากมลภาวะและแสงแดดในระหว่างวันได้

ผิวหนังชั้นนอกเป็นแหล่งที่อยู่ของเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ตามธรรมชาติร่างกายจะพลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกและสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน เมื่อคุณมีอายุมากขึ้น กระบวนการผลัดเซลล์ผิวจะทำงานช้าลง เป็นผลให้ผิวดูหมองคล้ำ ดังนั้นการดูแลให้ผิวดูกระจ่างใสและอ่อนเยาว์จึงสำคัญ โดยหนึ่งทางเลือกที่ง่ายและทำได้ทุกวันคือการให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อช่วยให้เซลล์ผิวใหม่ได้รับการดูแลอย่างล้ำลึก 

ปัจจัยภายนอก เช่น มลภาวะในอากาศที่เกิดจากชั้นบรรยากาศที่บางลง ส่งผลให้รังสีอัลตราไวโอเล็ตเข้าสู่ชั้นบรรยากาศมากขึ้น เป็นผลให้เซลล์ผิวหนังเสียหายจนก่อให้เกิดผิวที่แห้ง แดง และมีริ้วรอย ดังนั้นคุณควรหลีกเลี่ยงปัจจัยทางมลภาวะต่างๆ แต่จะทำยังไงให้หน้าใสและดูแลผิวกายให้กระจ่างใส? หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดคือการทาครีมกันแดดเพื่อเป็นเกราะป้องกันผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตที่เร่งกระบวนการการผลัดเซลล์ผิวรวมถึงทำลายเซลล์ผิวหนังจนทำให้เกิดสีผิวไม่สม่ำเสมอ การทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 เป็นเวลา 20 นาทีก่อนออกไปเผชิญกับแสงแดดและมลภาวะจะช่วยปกป้องรังสีรังสีอัลตราไวโอเลตไม่ให้ทำหลายเซลล์ผิว เพื่อคงไว้ซึ่งผิวกระจ่างใสไร้จุดด่างดำ.

วีธีหน้าใสและผิวกายกระจ่างใส

1. ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA
   
   AHA คือสารสกัดจากผลไม้ที่โดดเด่นในเรื่องการปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใสมากขึ้นและมีคุณสมบัติในการสลายเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพให้ผลัดออกพร้อมเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้เร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ผิวดูสว่างสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตามสาร AHA ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสีผิวทางพันธุกรรมได้
   
   
2. ขัดผิว
   Lการขัดผิวหน้าและผิวกายเป็นวิธีการทำความสะอาดผิวที่สามารถช่วยลดเลือนความหมองคล้ำได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนและคืนความอ่อนเยาว์ของผิวคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ
   การขัดผิวช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามการขัดผิวไม่ควรทำบ่อยจนเกินไปเพราะอาจทำลายความชุ่มชื้นของผิว โดยการขัดผิวนั้นควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ1- 2 ครั้ง เพื่อลดเลือนจุดด่างดำที่เกิดจากผลกระทบจากปัจจัยภายนอก
   
   หลังจากการขัดผิวกาย ควรบำรุงผิวด้วย วาสลีน® เฮลธี้ ไวท์ ยูวี ไลท์เทนนิ่ง โลชั่น  มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ที่มอบเนื้อสัมผัสเบาบางและอ่อนโยนด้วยสารสกัดที่ช่วยบำรุงผิวอย่างวิตามินบี 3 เข้มข้นผสมครีมกันแดดที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวคล้ำเสียจาก UV และแสงอัลตราไวโอเลต ควรใช้ วาสลีน® เฮลธี้ ไวท์ ยูวี ไลท์เทนนิ่งโลชั่น เป็นประจำเพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื่นและกระจ่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ 
   
   
3. การอบซาวน่า
   
   การอบซาวน่าไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย แต่ยังช่วยบำบัดกล้ามเนื้อให้ผ่อนคลายและช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น เนื่องจากความร้อนจะช่วยขับสิ่งสกปรกตามรูขุมขนให้ออกมาพร้อมเหงื่อ ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่หมองคล้ำให้หลุดออกด้วยวิธีธรรมชาติ ซึ่งเป็นวิธีการทำความสะอาดผิวที่ละเอียดและล้ำลึก
   
   
4. เพื่อใบหน้าที่สว่างสดใส ในระหว่างที่อยู่ในห้องซาวน่าคุณสามารถนำผ้าขนหนูสะอาดหนึ่งผืนมาปิดไว้ที่หน้า วิธีนี้จะช่วยให้เซลล์ผิวหมองคล้ำที่เกาะอยู่ตามผิวและรูขุมขนถูกขับออกมาได้ดีขึ้น เมื่อออกจากห้องซาวน่าคุณควรล้างหน้าและตัวด้วยน้ำเย็นทันทีเพื่อเป็นการปิดรูขุมขนและล้างสิ่งสกปรกรวมถึงเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก
   
   ถึงแม้เราจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสีผิวตามธรรมชาติได้ แต่เราก็สามารถดูแลผิวด้วยเทคนิคและวิธีทำให้หน้าใสพร้อมบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อผิวที่กระจ่างใสขึ้นได้ กุญแจสำคัญของการปกป้องผิวคือการหลีกเลี่ยงรังสีอัลตราไวโอเล็ตและทาครีมกันแดดควบคู่กับการดูแลผิวเพื่อสุขภาพผิวดีและกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
   ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพผิวจากวาสลีน >